ไออาร์พีซีได้นำระบบการจัดการพลังงานในธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมันโดยใช้กรอบการรับรองมาตรฐาน ISO 50001 จากการกำหนดนโยบายพลังงานขององค์กรและกรอบการกำกับดูแลโดยคณะกรรมการบริหารจัดการพลังงาน โดยบริษัทฯ ได้ทบทวนการใช้พลังงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อระบุส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุด อีกทั้งได้กำหนดตัวชี้วัด (KPIs) และเป้าหมายเพื่อวัดผลความเข้มข้นของการใช้พลังงานและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมทั้งบูรณาการเป้าหมายเหล่านี้เข้ากับแผนธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแนวทางการจัดการพลังงานรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน การตรวจสอบกระบวนการแบบเรียลไทม์และควบคุมขั้นสูง และการบำรุงรักษาอุปกรณ์เพื่อรักษาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
บริษัทฯ ยังพัฒนาศักยภาพของบุคลากรโดยการจัดฝึกอบรม เสริมสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และส่งเสริมพฤติกรรมที่คำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการติดตามผลการดำเนินงานผ่าน Digital energy platforms และตรวจสอบเป็นระยะๆ พร้อมรายงานผลต่อผู้บริหารระดับสูงเพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การบริหารจัดการพลังงานยังเชื่อมโยงกับกลยุทธ์การลดก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนเชื้อเพลิง (Fuel Switching), การผลิตพลังงานร่วม (Cogeneration), และการบูรณาการพลังงานหมุนเวียน (Renewable energy integration) เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายต่าง ๆ ในการลดการใช้พลังงาน เช่น การจำกัดการใช้พลังงานที่ 57.1 ล้านกิกะจูล ภายในปี 2568 ตั้งเป้าหมายประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ร้อยละ 83 ภายในปี 2573 ตลอดจนกำหนดแผนการจัดการระยะยาวต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุถึงผลการดำเนินงานในระดับผู้นำของอุตสาหกรรม เพื่อสอดรับกับเป้าหมาย บริษัทฯ จึงดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานหลายโครงการที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ
เป้าหมาย
เป้าหมายระยะสั้น
- การใช้พลังงานทั้งหมดขององค์กรในปี 2567 ไม่เกิน 88 ล้านกิกะจูล
- กำหนดดัชนีชี้วัดการใช้พลังงานในปี 2567 เท่ากับ ร้อยละ 86.78
เป้าหมายระยะยาว
- การใช้พลังงานทั้งหมดขององค์กรในปี 2568 ไม่เกิน 57.1 ล้านกิกะจูล
- พลังงานในปี 2573 เท่ากับ ร้อยละ 83
ผลการดำเนินงานในปี 2567
- การใช้พลังงานทั้งหมดขององค์กรในปี 2567 รวมเป็นจำนวน 60.80 ล้านกิกะจูล
- ดัชนีชี้วัดการใช้พลังงานในปี 2567 เท่ากับ ร้อยละ 82.67
โครงการอนุรักษ์พลังงาน
ภาพรวมการดำเนินงานของโครงการอนุรักษ์พลังานทั้งหมดในปี 2567
โครงการอนุรักษ์พลังงาน
โครงการ
33
การใช้พลังงานลดลง
กิกะจูลต่อปี
296,391
ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดลง
ล้านบาท
109
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง
ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
18,969
โครงการอนุรักษ์พลังงานที่มีความสำเร็จอย่างโดดเด่น ได้แก่
การทำความสะอาดอุุปกรณ์แลกเปลี่่ยนความร้อน 41E013A/B และ 41E024A/B ที่โรงกลั่นน้ำมัน ADU2
โรงกลั่นน้ำมัน ADU2 เพิ่มประสิทธิภาพทางพลังงานโดยการทำความสะอาดอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน หมายเลข 41E013A/B และ 41E024A/B ในสายการผลิตน้ำมันทางโรงกลั่นน้ำมัน ADU2 พบว่าสิ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพในการถ่ายเทความร้อนของอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนเสื่อมลงมาจากการตะกรันสะสมบนพื้นผิวของอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนจะถูกออกแบบให้ส่งความร้อนให้กับน้ำมันดิบก่อนไหลเข้าสู่คอลัมน์การแยกส่วน ตะกรันนี้จะทำให้ความสามารถในการถ่ายเทความร้อนของอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนเสื่อมลง และต้องใช้เชื้อเพลิงเพิ่มเติมเพื่อคงสภาพอุณหภูมิ ดังนั้น โรงกลั่นน้ำมัน ADU2 จึงถอดแยกอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนหมายเลข 41E013A/B และ 41E024A/B เพื่อทำความสะอาด ผลลัพธ์คือ อุณหภูมิของน้ำมันดิบก่อนเข้าเตาเพิ่มขึ้น 10 องศาเซลเซียสสามารถประหยัดพลังงานความร้อนได้ 10,002,176 เมกะจูลต่อปี หรือสามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ถึง 39 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 640 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
การลดการใช้พลังงานของคอมเพรสเซอร์ในระบบ Refrigeration ที่ HDPE Plant
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการใช้พลังงานของเครื่องอัดแก๊สในระบบทำความเย็น โดยการลดแรงดันขาเข้าของคอมเพรสเซอร์จาก 1.3 BarG เหลือ 1.0 BarG ระบบการทำความเย็นของ HDPE Plant มีระบบทำความเย็น 3 ชุด โดยปกติจะเดินอุปกรณ์ 2 ชุด โดยมีหน้าที่ลดอุณหภูมิของสารทำความเย็นในกระบวนการผลิตชนิด R22 ที่ HDPE Plant ซึ่งอุปกรณ์หลักในระบบทำความเย็น ได้แก่ เครื่องอัดแรงดันก๊าซ เครื่องระเหยเป็นไอ และเครื่องควบแน่น ซึ่งอุปกรณ์หลักที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าคือเครื่องอัดแรงดันก๊าซ ทำหน้าที่เป็นปั๊มในการเคลื่อนย้ายสารทำความเย็นผ่านระบบซึ่งจำเป็นต้องใช้แหล่งจ่ายไฟ ดังนั้นการปรับลดค่าพลังงานของเครื่องอัดแรงดันก๊าซ จากเดิมค่าความดัน 1.3 BarG เป็น 1.0 BarG ส่งผลให้เครื่องอัดแรงดันก๊าซใช้พลังงานไฟฟ้าที่ลดลงจาก 420 kWh เป็น 390 kWh ต่อเครื่องอัดแรงดันก๊าซ 1 ตัว โดยประสิทธิภาพการทำงานของระบบทำความเย็นยังคงปกติ ค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากค่าพลังงานไฟฟ้าที่ลดลง คิดเป็น 1,435,200 บาทต่อปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 54 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
Operate One Slurry Pump Around
โครงการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในส่วนล่างของหอกลั่นแยก 53C101 โดยการเดิน Slurry Pump เพียง 1 ตัวแทนการเดิน Pump 2 ตัว โดยปกติอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ที่ออกมาทางด้านล่างของหอกลั่นแยก (Slurry หรือน้ำมันหนัก) ค่อนข้างสูง (330 องศาเซลเซียส) จึงจำเป็นต้องลดอุณหภูมิในส่วนนี้ก่อนส่งกลับหอกลั่นแยก 53C101 อีกครั้ง เพื่อให้ปริมาณความร้อนที่หอกลั่นแยกได้รับนั้นมีความเหมาะสมต่อการกลั่นแยกน้ำมันต่าง ๆ ทั้งนี้การส่งน้ำมันหนัก (Slurry) ไปแลกเปลี่ยนความร้อนก่อนเข้าหอกลั่นแยกนั้น โดยปกติแล้วจะต้องเดิน Pump 2 ตัว คือ 53P102B และ 53P102C และต้องมี Stand By 1 ตัว คือ 53P101A ทำหน้าที่เป็น Pump สำรอง ซึ่งจากโครงการลดพลังงานดังกล่าว สามารถทำการปรับเงื่อนไขการเดิน Pump จาก 2 ตัว เป็น 1 ตัว โดยที่ไม่ส่งผลกระทบใดต่อกระบวนการกลั่นที่หอกลั่นแยก ผลที่ได้คือ สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้เป็นจำนวนเงิน 3.5 ล้านบาทต่อปี หรือลดการใช้ไฟฟ้าได้ 201 kWh ขณะเดียวกันก็สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 366 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องอัดรีด 07X068B ที่โรงงาน CCM
โครงการนี้มุ่งเน้นการลดการใช้ไฟฟ้าในกระบวนการจับคู่สีโดยการปรับการใช้เครื่องอัดรีด 07X068B ให้เหมาะสม สามารถลดการใช้พลังงานได้สำเร็จรวม 5,280 kWh ต่อปี ซึ่งเกินเป้าหมายเริ่มต้นที่ 4,800 kWh หรือเทียบเท่ากับ 19 กิกะจูล ต่อปี การลดลงนี้ส่งผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ประมาณ 366 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ความสำเร็จนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างมีนัยสำคัญ