Double Materiality Assessment Process
1. ทำความเข้าใจบริบทขององค์กร
2. การระบุประเด็นและผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงและอาจเกิดขึ้น
3. ประเมินระดับความมีนัยสำคัญของผลกระทบ
4. การจัดลำดับผลกระทบที่มีนัยสำคัญ
บริษัทฯ วิเคราะห์บริบทด้านธุรกิจอย่างครอบคลุม โดยพิจารณาปัจจัยภายใน เช่น เป้าหมาย ค่านิยม กลยุทธ์ โครงสร้างองค์กร กิจกรรมในการดำเนินงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น แนวโน้มอุตสาหกรรม ประเด็นด้านกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้บริษัทฯ ได้พิจารณาความคาดหวังและข้อกังวลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งหมายรวมถึง ผู้ถือหุ้น หรือนักลงทุน พนักงาน ลูกค้า/ผู้บริโภค คู่ค้า ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการเก็บข้อมูลจากการทำแบบสอบถามและการสัมภาษณ์ ทุกปัจจัยถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อระบุและเรียงลำดับประเด็นด้านความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญและมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ มากที่สุด
บริษัทฯ ระบุผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงและอาจเกิดขึ้นจากประเด็นที่มีนัยสำคัญในเชิงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีทั้งผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นกับกิจกรรมการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
บริษัทฯ ยึดแนวทางปฏิบัติตามหลักการประเมินผลกระทบภายนอกต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อมและผลกระทบภายในที่มีต่อมูลค่าองค์กร (Double Materiality) ดังนั้น จึงมีการประเมินผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสิทธิมนุษยชน รวมถึงการประเมินความเสี่ยงและโอกาสที่มีต่อการดำเนินธุรกิจ จากนั้นจึงทำการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละประเด็น การประเมินดำเนินงานผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยพิจารณาระดับความร้ายแรง (ขนาด ขอบเขต หรือไม่สามารถฟื้นฟูเยียวยาได้) และความเป็นไปได้ในการเกิดผลกระทบเหล่านี้
หลังจากวิเคราะห์ระดับนัยสำคัญของแต่ละประเด็นแล้ว บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดลำดับประเด็นความยั่งยืน พร้อมทั้งทวนสอบความเหมาะสมผ่านการศึกษาข้อมูลจากหน่วยงานที่เป็นผู้นำทางความคิดด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการกำกับดูแล (ESG) เพื่อคัดเลือกประเด็นความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น Global Reporting Initia-tive (GRI), Dow Jones Sustainability Indices (DJSI), World Economic Forum, World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) UN Global Compact, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และอื่น ๆ เพื่อยืนยันความครบถ้วนของผลการประเมิน จากนั้นประเด็นต่าง ๆ ดังกล่าวจะถูกรายงานในที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Development Committee: SDC) เพื่อพิจารณาอนุมัติ แล้วจึงส่งเรื่องเข้าที่ประชุมระดับคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืนพิจารณารับทราบต่อไป