Skip to main content

โครงการเพื่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

แนวทางการบริหารจัดการ

โครงการลำไทรโยงโมเดล และ IRPC Smart Farming

ดำเนินการใน 3 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ อุดรธานี และ ระยอง โดยนำองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำ ไปช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่แห้งแล้ง โดยพัฒนาและบริหารจัดการให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำสำหรับทำการเกษตรในฤดูแล้งเพิ่มมากขึ้น และต่อยอดนำนวัตกรรม เทคโนโลยี Smart Farming ไปดำเนินการตามแนวทาง “การทำเกษตรแบบผสมผสานเทคโนโลยี ที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่และวิถีชีวิตของชุมชน โดยยึดหลัก ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด”

  • โครงการลำไทรโยงโมเดล และ IRPC Smart Farming อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

ปี  2557   บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำและพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่แห้งแล้ง  ชื่อเดิมว่า โครงการสร้างคลองสร้างคน ณ บ้านหนองยาง ตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตร และ อุปโภค บริโภค ในฤดูแล้ง ซึ่งบริษัทฯ ได้สนับสนุนงบประมาณและร่วมกับมูลนิธิเพื่อการศึกษาและประชาสงเคราะห์ ดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำหมู่บ้านหนองยางจำนวน 5 อ่าง พื้นที่รวม 18 ไร่ ให้มีความลึกเพิ่มขึ้นจากเดิมและปรับให้แต่ละอ่างเชื่อมกัน ทำให้สามารถเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นจาก 40,000 ลบม. เป็น 90,000 ลบ.ม. โดยถูกใช้เป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของหมู่บ้าน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดในอ่างเก็บน้ำบ้านหนองยาง เพื่อเพิ่มแหล่งอาหารตามธรรมชาติให้แก่ชุมชน รวมถึง สร้างรายได้ให้แก่หมู่บ้านหนองยาง จากการเปิดให้ชุมชนและบุคคลภายนอกเข้ามาตกปลาที่อ่างเก็บน้ำอีกด้วย

ปี 2558 บริษัทฯ นำพนักงานจิตอาสา ดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงระบบการผลิตน้ำประปาของหมู่บ้านหนองยาง ตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจากเดิมน้ำประปาที่ผลิตได้มีความเข้มข้นของตะกอนดินสูง ไม่สามารถนำไปอุปโภคและบริโภคได้ ให้กลับมาผลิตน้ำประปาที่มีความใสสะอาดและมีคุณภาพตามมาตรฐาน นอกจากนี้ พนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ ยังได้ให้ความรู้แก่ชุมชนบ้านหนองยาง ให้สามารถดูแลและทำการบำรุงรักษาระบบประปาหมู่บ้านด้วยตนเอง  ทำให้สามารถผลิตน้ำประปาที่มีคุณภาพและมาตรฐานไว้ใช้อยู่เสมอ

ปี 2559   บริษัทฯ ดำเนินการวางท่อส่งน้ำชนิด HDPE จากคลองลำไทรโยงไปยังอ่างเก็บน้ำ ณ บริเวณป่าดอนโจร ตำบลลำไทรโยง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำพื้นที่ขนาด 50 ไร่ ที่ทางหน่วยงานราชการขุดไว้ให้ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 4.2 กิโลวัตต์ เพื่อทำการผันน้ำจากคลองลำไทรโยง ซึ่งเป็นลำรางสาธารณะมายังอ่างเก็บน้ำ เป็นการช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของชุมชน และทำให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำได้

ปี 2563  เนื่องจากเกิดภาวะภัยแล้งที่มีความรุนแรงขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำสำรองในอ่างเก็บน้ำของหมู่บ้านหนองยางมีไม่เพียงพอ บริษัทฯ จึงได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการขุดบ่อบาดาล จำนวน 2 จุด พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 2.7 กิโลวัตต์ ทำให้ชุมชนสามารถนำน้ำมาใช้สำหรับอุปโภค บริโภค และใช้ทำการเกษตร เพื่อสร้างรายได้ และยังสามารถลดรายจ่ายค่าไฟฟ้าของชุมชน

ปี 2565  ดำเนินโครงการซ่อมแซมและฟื้นฟูระบบประปาหมู่บ้านหนองยาง ซึ่งใช้งานมากว่า 20 ปี และ เริ่มชำรุดเสียหาย โดย บริษัทฯ ดำเนินโครงการฯ ร่วมกับชุมชนบ้านหนองยาง

ปี 2566 ดำเนินการเพื่อสนับสนุนให้ชุมชนบ้านหนองยาง จัดตั้งวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน โดยชุมชนบ้านหนองยางได้รับการขึ้นทะเบียนวิสาหกิจชุมชนในชื่อ “วิสาหกิจชุมชน ลำไทรโยงโมเดล สมาร์ท ฟาร์มมิ่ง”

  • โครงการลำไทรโยงโมเดล และ IRPC Smart Farming อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี

ปี 2562 – ปัจจุบัน ได้ดำเนินโครงการลำไทรโยงโมเดล ณ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทฯ ได้เคยให้การสนับสนุนโครงการสร้างอาชีพคนพิการ ในปี 2560  และปัจจุบันศูนย์ฯ แห่งนี้เปิดรับให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ  เข้ามาใช้พื้นที่ในการฝึกฝนประกอบอาชีพด้านการเกษตรและเลี้ยงสัตว์

บริษัทฯ จึงได้เริ่มดำเนินโครงการฯ โดยนำวิศวกรซึ่งเป็นพนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ ออกแบบการขุดขยายสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตร วางท่อส่งน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งถังเก็บน้ำบนดินและถังเก็บน้ำบนอาคารสูง ปรับปรุงห้องน้ำสำหรับผู้พิการและสร้างทางลาด สร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ โรงปุ๋ยหมักชีวภาพ และสร้างรั้ว (Cowboy Fence) เพื่อแบ่งแยกและกำหนดพื้นที่สำหรับเกษตรกรรม และเลี้ยงสัตว์ ให้เป็นสัดส่วน

ปี 2563  บริษัทฯ กำหนดให้ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี เป็นพื้นที่ดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ โดยตั้งเป้าหมายให้ศูนย์ฯ เป็นสถานที่ฝึกอบรมและให้ความรู้ด้านการเกษตรและเลี้ยงสัตว์แก่คนพิการ และ สร้างศักยภาพในการพึ่งพาตนเองของศูนย์ ทั้งในด้านการบริหารจัดการพื้นที่ การสร้างรายได้และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของทางศูนย์

ปี 2564 บริษัทฯ ได้กำหนดแผนงานต่อยอดโครงการฯ โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรที่มีความเหมาะสมกับวิถีชุมชนและศักยภาพของคนพิการ มาปรับใช้ในด้านการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ โดยกำหนดพื้นที่จำนวน 35 ไร่ ณ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี ให้เป็นพื้นที่ดำเนินโครงการ IRPC Smart Farming  เป็นพื้นที่ทำการเกษตรที่เปิดโอกาสให้คนพิการในด้านต่าง ๆ ผู้สูงอายุ และผู้ดูแลคนพิการติดเตียงที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ให้ได้เข้ามาเรียนรู้การทำเกษตรกรรมที่มีความเหมาะสมกับศักยภาพและสภาพร่างกาย เพื่อนำไปสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว โดยให้การสนับสนุนในการจัดหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตร ที่ไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวิถีชีวิตของเกษตรกรซึ่งเป็นคนพิการ

ทั้งนี้ ได้น้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชการที่ ๙  มากำหนดวิสัยทัศน์ในการดำเนินโครงการ อันได้แก่ “การทำเกษตรแบบผสมผสานเทคโนโลยี ที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่และวิถีชีวิตของชุมชน โดยยึดหลัก ประหยัด เรียบง่ายและได้ประโยชน์สูงสุด” ผสานกับการศึกษา อบรม และเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ สร้างโอกาสให้คนพิการสามารถประกอบอาชีพทางการเกษตร สร้างรายได้ และสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพและคุ้มค่าแก่การลงทุน โดยได้ดำเนินการ ดังนี้

การลงนามในบันทึกว่าด้วยความเข้าใจความด้านร่วมมือด้านวิชาการ (MOU) ระหว่าง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตร เพื่อดำเนินโครงการ IRPC Smart Farming ณ ศูนย์ส่งเสิรมพัฒนาคนพิการอุดรธานี เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาด้านการปลูกพืช การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร มีระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ วันที่ 21 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2566

การขับเคลื่อนโครงการ IRPC Smart Farming ผ่านการจ้างงานภายใต้โครงการ Restart Thailand ของ ปตท. เพื่อร่วมกระตุ้นระบบเศรษฐกิจไทยและพัฒนาสังคม โดยการจ้างแรงงานและนักศึกษาจบใหม่ ระดับ ปวช. – ปริญญาตรี มาร่วมโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม (Smart Farming & Smart Marketing) ของกลุ่ม ปตท. เป็นระยะเวลา 12 เดือน โดย ไออาร์พีซี ได้รับการจัดสรรพนักงานจากโครงการ Restart Thailand ในทักษะอาชีพ Smart Farming   จำนวน 6 คน   ให้มาปฏิบัติงานและช่วยขับเคลื่อนโครงการ IRPC Smart Farming ณ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี โดยได้มีการมอบหมายหน้าที่และการปฏิบัติงานตามแผนงานที่กำหนด โดยให้สอดคล้องกับนโยบายและตัวชี้วัดผลงานซึ่งกำหนดโดย ปตท.

ดำเนินการขุดสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตร มีวัตถุประสงค์เพื่อกักเก็บน้ำและมาใช้ทำการเกษตรในพื้นที่โครงการ IRPC Smart Farming และสำรองน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการฯ ในฤดูแล้ง

ดำเนินการขุดสระสำหรับเลี้ยงปลาและสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่เหนือสระน้ำ ตามแผนงาน “เลี้ยงไก่ได้ปลา” เนื่องจากการเลี้ยงไก่เหนือสระเลี้ยงปลา จะช่วยประหยัดงบประมาณค่าอาหารปลา ลดมลภาวะจากมูลไก่ และลดการใช้แรงงานในการทำความสะอาดและกำจัดมูลไก่ โดยโรงเรือนได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน ถูกสุขอนามัย

ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ขนาด 340 W จำนวน 6 แผง พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อทำการผันน้ำจากสระเก็บน้ำสำรองฯ ไปยังสระน้ำสำหรับเลี้ยงปลา รวมถึงกระจายน้ำไปใช้ยังพื้นที่ทำการเกษตร ปศุสัตว์ โรงเรือนปลูกผักอัจฉริยะ เนื่องจากในพื้นที่ฯ ฝนตกน้อยและขาดช่วงเป็นระยะเวลานาน จึงมีความจำเป็นต้องการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน

ดำเนินการติดตั้งติดตั้งโรงเรือนปลูกผัก  และมีการติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติซึ่งเชื่อมต่อกับแผงโซล่าเซลล์ ทำให้สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า ลดภาระด้านแรงงานของผู้ดูแลซึ่งเป็นคนพิการ มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการทดลองปลูกผักที่มีราคาแพงในฤดูฝน โดยคัดเลือกผักที่หากไม่ได้ปลูกในโรงเรือนจะได้รับความเสียหายจากน้ำฝน ทำให้สามารถสร้างรายได้สูงขึ้นในช่วงฤดูฝน

ปี 2565 บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ  IRPC Smart Farming เพิ่มเติม ดังนี้

ดำเนินการปรับปรุงและต่อเติมตู้คอนเทนเนอร์สำนักงาน  ณ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี ได้ดำเนินการขออนุมัตินำตู้คอนเทนเนอร์สำนักงานของบริษัทฯ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพดี บริจาคให้กับทางศูนย์ฯ เพื่อนำไปติดตั้ง ปรับปรุงและต่อเติมเพื่อใช้เป็นสำนักงาน/สถานที่สำหรับประชุมและรับรองผู้มาเยี่ยมชม ทั้งนี้ มีการสร้างทางลาดสำหรับคนพิการตามแบบอารยสถาปัตย์ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เดินสายไฟพร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างด้านนอกตู้คอนเทนเนอร์ และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้กับสำนักงานฯ

ส่งมอบโดรนเพื่อการเกษตร  “เจ้าเอี้ยง โดรนเกษตรอัจฉริยะ   (Aiang Agriculture Spraying Drone)” ให้แก่ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการฯ  มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยพัฒนาและยกระดับความสามารถของเกษตรกรซึ่งเป็นคนพิการ ในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร โดยนำเทคโนโลยีมาใช้งาน รวมทั้งช่วยยกระดับผลผลิตทางการเกษตร โดยการใช้โดรนเจ้าเอี้ยงในการพ่นปุ๋ย ธาตุอาหาร ฮอร์โมน ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับพืชชนิดต่าง ๆ สามารถช่วยประหยัดเวลา ลดการใช้แรงงาน นอกจากนี้ยังช่วยสร้างอาชีพและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนพิการ ในการเป็นผู้ควบคุมโดรนเพื่อการเกษตรจากการรับจ้างพ่นปุ๋ย ธาตุอาหาร อีกด้วย

ปี 2566  ดำเนินโครงการ  IRPC Smart Farming เพิ่มเติม ดังนี้

เสริมคันดินขอบสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตร  สระ 3 ให้มีขนาดกว้างขึ้น จากเดิม 4 ม. เป็น 7.3 ม. เพื่อเสริมความแข็งแรงของคันดินในการรับน้ำ พร้อมกับปรับระดับความสูงของท่อน้ำล้นจากความสูงเดิม 60 ซม. เป็น 100 ซม.  ซึ่งคาดว่าจะสามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 1 เท่า

ติดตั้งเสาวัดระดับน้ำในสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตรทั้ง 4 สระ เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บข้อมูลระดับน้ำและนำระดับน้ำที่วัดได้มาใช้คำนวณปริมาณน้ำคงเหลือ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการใช้งานด้านการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ภายในพื้นที่ศูนย์ฯ

ติดตั้งถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 2 ถัง พร้อมฐานวาง โดยถังแรกจะใช้กับระบบน้ำหยดของพื้นที่ทดลองการปรับสภาพดินเสื่อมสภาพ และ อีกหนึ่งถังเก็บน้ำบาดลสำหรับใช้ในโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่เหนือสระเลี้ยงปลา

โครงการทดลองปรับปรุงคุณภาพดินเสื่อมสภาพด้วยปุ๋ยหมีขาว เพื่อเป็นการพัฒนาพื้นที่สำหรับทำการเกษตร

โครงการแปรรูปผลิตภัณฑ์โดยใช้ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อส่งเสริมการแปรรูปผลผลิต ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร เช่น ปลาแดดเดียว กล้วยตาก

ออกให้บริการรับจ้างบินโดรนเพื่อการเกษตรโดยคนพิการ ในพื้นที่นาข้าวและพื้นที่ปลูกพืชไร่ ในอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี

ปี 2567 ดำเนินโครงการ  IRPC Smart Farming เพิ่มเติม ดังนี้

โครงการทดลองปรับปรุงคุณภาพดินเสื่อมสภาพด้วยปุ๋ยหมีขาวและสารปรับปรุงดิน และทดลองปลูกกล้วยน้ำว้า พันธุ์มะลิอ่อง เพื่อต่อยอดการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิตทางการเกษตร

  • IRPC Smart Farming จังหวัดระยอง

เริ่มดำเนินการในปี 2565  ในชื่อโครงการศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรผสมผสาน สวนยายดา เจ๊บุญชื่น (IRPC Smart Farming) ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง เป็นการดำเนินโครงการ ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ ที่กำหนดให้มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกับเป้าหมายและวิธีการเดินหน้าสู่ความสำเร็จตามกลยุทธ์ 3S (Strengthening the core, Striving the growth, Sustaining the future)

รายละเอียดและวัตถุประสงค์

  1. ดำเนินโครงการ IRPC Smart Farming ตามแผนงาน 3 ปี (ปี 2565 – 2568) ซึ่งขับเคลื่อนโดย คณะทำงาน IRPC Smart Farming
  2. ดำเนินการโครงการฯ ร่วมกับ สวนยายดา เจ๊บุญชื่น (นางบุญชื่น โพธิ์แก้ว) เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างประโยชน์ ให้แก่ สวนยายดาฯ ชุมชน และ บริษัทฯ
  3. บูรณาการองค์ความรู้ และนวัตกรรมของบริษัทฯ ในการสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเกษตรและการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ทั้งนี้ โดยมีความเชื่อมโยงกับพื้นที่โครงการ IRPC Smart Farming จังหวัดอุดรธานี
  4. สร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน จังหวัดระยอง โดยมีสวนยายดาฯ เป็นศูนย์กลาง ในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
  • เป็นศูนย์กลางในการรับตัวอย่างดิน เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารในดิน ทำให้เกษตรกร สามารถใช้ปุ๋ยได้ตรงกับสภาพดิน
  • เป็นศูนย์กลางจำหน่ายผลิตภัณฑ์/สินค้า ของชุมชน
  • เป็นพื้นที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน เช่น การจ้างแรงงานในด้านบริการนักท่องเที่ยว
  1. เป็นพื้นที่ศึกษาและทดสอบการใช้ปุ๋ยหมีขาว (Nano Zinc Oxide) ของบริษัทฯ เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาสูตรปุ๋ย/ธาตุอาหาร เพื่อสร้างการยอมรับและการพัฒนาต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคต

โครงการ IRPC Young Smart Farmers

เป็นโครงการที่เชื่อมโยงและขยายแนวคิด/องค์ความรู้จากโครงการ IRPC Smart Farming ออกไปยังโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงพื้นที่โครงการ IRPC Smart Farming ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี (รัศมี 5 – 10 กม.) โดยคัดเลือกโรงเรียนที่มีศักยภาพและมีความพร้อมเข้าร่วมโครงการฯ

ในปี 2566 ไออาร์พีซีได้เริ่มดำเนินโครงการ   IRPC Young Smart Farmers  ที่โรงเรียนบ้านหนองสว่าง ต. บ้านม่วง อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 เปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มีพื้นที่ว่างภายในบริเวณโรงเรียนที่สามารถใช้ดำเนินโครงการด้านการเกษตรได้ ทั้งนี้ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการฯ ดังนี้

  • เพื่อสร้างพื้นที่ทดลอง (Sandbox) ทำการเกษตรแบบ Smart Farming สำหรับเด็กนักเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งมุ่งเน้นกิจกรรมการเรียนรู้และถอดบทเรียนโดยเชื่อมโยงจากโครงการ IRPC Smart Farming ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า อภิปราย สร้างความคิดเชิงเหตุผล  และประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในชีวิตประจำวันหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
  • เพื่อสร้างพื้นที่ผลิตอาหารปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้างจากแปลงเกษตรของโรงเรียน
  • เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนในด้านอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนซึ่งมีความขาดแคลน โดยใช้ผลผลิตจากโครงการฯ
  • เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาหาร โดยได้เห็นที่มาของอาหาร เข้าใจประโยชน์และคุณค่าของอาหาร
  • เพื่อเพิ่มทักษะในการเรียนรู้นอกห้องเรียน ด้านการเกษตร ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ให้แก่นักเรียน
  • เพื่อเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเยาวชน สถานศึกษา และ ชุมชน

ขอบเขตของการดำเนินโครงการฯ

  • สนับสนุนการเรียนรู้และสร้างทักษะด้านการเกษตรแบบ Smart Farming ผ่าน การเพาะเลี้ยงเห็ดนางรมเทา โดยไออาร์พีซี สนับสนุนการติดตั้งโรงเรือนเพาะเลี้ยงเห็ด ซึ่งติดตั้งระบบพ่นหมอกอัตโนมัติ ติดตั้งถังเก็บน้ำสูง เครื่องปั๊มน้ำ และระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับใช้กับโรงเรือนและการขยายโครงการฯ ในอนาคต
  • สนับสนุนการฝึกอบรมการเพาะเลี้ยงเห็ด โดยจัดการฝึกอบรมการเพาะเลี้ยงเห็ดให้แก่คณะครูและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดย มีผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาคนพิการอุดรธานี และ หัวหน้าชุมชน ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายโครงการ IRPC Smart Farming เป็นวิทยากร
  • สนับสนุนให้นักเรียน ได้เรียนรู้การบันทึกบัญชีผลผลิต การบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย การจำหน่ายสินค้า สนับสนุนให้มีการต่อยอดแปรรูปผลผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น น้ำพริกเห็ด แหนมเห็ด เป็นต้น

ผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการฯ

  • นักเรียนได้ฝึกทักษะด้านการเกษตร การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหา การจำหน่ายและแปรรูปสินค้า ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต
  • สามารถนำผลผลิตที่ได้ มาประกอบอาหารกลางวันเสริมให้กับนักเรียน
  • สามารถนำผลผลิตทีเหลือจากการบริโภค ออกจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้แก่โรงเรียนฯ สามารถนำเงินรายได้ไปใช้พัฒนาโรงเรียนฯ และนำไปเป็นทุนในการดำเนินโครงการฯ ด้วยตัวเอง
  • เป็นแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนอื่น ชุมชนและผู้ที่สนใจ
  • สามารถต่อยอดดำเนินโครงการผลิตปุ๋ยหมักจากขยะทางการเกษตร โดยนำก้อนเชื้อเห็ดหมดอายุไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยหมัก สำหรับใช้ในโครงการฯ

โครงการขาเทียม

ไออาร์พีซี  ดำเนินโครงการขาเทียม ร่วมกับ มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยบริจาคเม็ดพลาสติก Polypropylene เฉลี่ยปีละ 8 ตัน ให้แก่มูลนิธิขาเทียมฯ ใช้เป็นวัสดุในการผลิตเบ้าขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาดโดยไม่คิดมูลค่า เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการขาขาด มาตั้งแต่ปี 2554

ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกของไออาร์พีซี นอกจากจะถูกนำไปใช้ผลิตขาเทียมทั้งที่สำนักงานมูลนิธิขาเทียมฯ จังหวัดเชียงใหม่ ที่หน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ทั้งในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย พม่า และ กัมพูชา และที่โรงงานทำขาเทียมพระราชทานที่ตั้งอยู่ตามโรงพยาบาลทั่วประเทศ จำนวน 95 แห่งแล้ว ยังถูกส่งไปยังโรงงานขาเทียมที่มูลนิธิขาเทียมฯ จัดตั้งให้ที่โรงพยาบาลทหาร ณ สาธารณรัฐบุรุนดี สาธารณรัฐเซเนกัล ซึ่งเป็นประเทศที่มีความยากจน มีคนพิการขาขาดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ และสาเหตุอื่น ๆ อีกด้วย โดยตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2567 (ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) มูลนิธิขาเทียมฯ สามารถผลิตขาเทียมให้แก่ผู้พิการโดยใช้ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกของไออาร์พีซี ทั้งสิ้น จำนวน 43,585 ขา

*** ตั้งแต่ปี 2554 – 2568 ไออาร์พีซีบริจาคเม็ดพลาสติกให้แก่มูลนิธิขาเทียมฯ ไปแล้วทั้งสิ้น 106 ตัน

*** ไออาร์พีซี นำส่งเม็ดพลาสติก PP ให้ บจก. อิสเทิร์น โพลีแพค (ลูกค้า) ช่วยผลิตเป็นแผ่นพลาสติกตามขนาดที่มูลนิธิขาเทียมฯ ต้องการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

นอกจากการบริจาคผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกแล้ว ไออาร์พีซี ได้ร่วมกับมูลนิธิขาเทียมฯ ทำการวิจัยและพัฒนาวัสดุสำหรับผลิตขาเทียมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถผลิตขาเทียมและอุปกรณ์ขาเทียมที่มีคุณภาพ มีความคงทนและมีน้ำหนักเบา ซึ่งจะทำให้คนพิการเคลื่อนไหวได้สะดวก สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้เช่นเดียวกับผู้ที่มีร่างกายปกติ

โดยผลงานจากการวิจัยพัฒนาฯ ได้แก่ การผลิตเม็ดพลาสติก Polypropylene Random Copolymer 3340H ซึ่งคุณสมบัติโปร่งแสง มีความยืดหยุ่น พื้นผิวเรียบลื่น สำหรับใช้ผลิตเบ้าขาเทียมที่สามารถมองเห็นการแนบกับตอขาของคนพิการได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า เพื่อแก้ปัญหาเมื่อคนพิการใส่ขาเทียมแล้วสร้างความเจ็บปวดจากแผลถลอกอันเกิดจากการเสียดสีของตอขากับเบ้าขาเทียม  นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาการใช้เวลานานเพื่อผลิตขาเทียม เนื่องจากต้องปรับและแก้ไขเบ้าขาเทียมหลายครั้ง จนกว่าจะมีความแนบพอดีกับตอขาของคนพิการ และ เม็ดพลาสติกดังกล่าว ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (ประเภทองค์กรขนาดใหญ่) ในชื่อผลงาน “พลาสติกนวัตกรรมเพื่อคนพิการ”

โครงการวิจัยพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ด้าน CSR

ไออาร์พีซี ร่วมดำเนินการวิจัยพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์กับภาคีเครือข่าย ได้แก่ มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สถาบันสิรินธร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ เป็นต้น เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและคนพิการ

โครงการ Our Khung BangKachao

โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวชุมชนคุ้งบางกะเจ้า (ปี 2567 – 2569) ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา โดยแต่ละองค์กรที่เข้าร่วมโครงการฯ จะนำความเชี่ยวชาญ องค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีหลากหลายมิติ มาบูรณาการเพื่อให้การพัฒนาโครงการฯ มีประสิทธิภาพสูงสุด ไออาร์พีซี เป็นหนึ่งในองค์กรภาคเอกชน ที่เข้าร่วมเป็นคณะทำงานโครงการฯ โดยในปี 2568 ได้ดำเนินโครงการแปลงทดลองปลูกไม้ผลโดยใช้ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยหมีขาวและสารปรับปรุงดิน ในพื้นที่ขนาด 1 งาน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา  ตั้งอยู่ที่ ต. ทรงคนอง อ. พระประแดง จ. สมุทรปราการ เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาการปลูกไม้ผลในพื้นที่โครงการฯ ได้แก่ ดินเค็ม การรุกพื้นที่ของน้ำเค็ม ปัญหาโรคในไม้ผล ได้แก่ ทุเรียน ส้มโอ ส้มเทพรส มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นต้น โดยในไตรมาส 1/2568 ได้ดำเนินการ ดังนี้

  1. ปรับปรุงดินและพัฒนาผลผลิต โดยใช้สารปรับปรุงดิน (Humic-X Max) ราดที่โคนต้น ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย และอุ้มน้ำได้ดี ช่วยปรับค่า pH ให้เหมาะสำหรับ การเพาะปลูกพืชและใช้ปุ๋ยหมีขาว สูตร ZiO-2  Am-Maxx และ Am-CaB ฉีดพ่นทางใบ เพื่อเพิ่มธาตุอาหารรองเสริมที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของไม้ผล
  2. ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ขนาด 350 W แบบมีแบตเตอรี่สำรอง พร้อมด้วยปั๊มน้ำ อัตโนมัติ
  3. ติดตั้งระบบรดน้ำแบบสปริงเกอร์ พร้อมเดินท่อส่งน้ำ HDPE แบบฝังดิน โดยบริษัทฯ ได้รับความอนุเคราะห์จากลูกค้า บริษัท ไทย-เอเซีย พี. อี. ไพพ์ จำกัด ให้การสนับสนุนท่อ HDPE จำนวน 100 เมตร เพื่อใช้ในโครงการฯ

ทั้งนี้ ระบบโซลาร์เซลล์และระบบการให้น้ำแบบ Sprinkler ได้รับการออกแบบและให้คำปรึกษาโดยวิศวกรจิตอาสาของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการวางระบบให้น้ำเพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และวางผังการให้น้ำซึ่งมีความเหมาะสมกับชนิดของไม้ผล สามารถควบคุมการให้น้ำช่วงการแทงช่อดอกของไม้ผลในแต่ละชนิด นอกจากนี้ ระบบโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งเป็นแบบที่สามารถสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการใช้งานในวันที่มีแสงแดดไม่เพียงพอสำหรับผลิตไฟฟ้า

โครงการบริหารจัดการและให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ

โครงการบริหารจัดการและให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ  โดยดำเนินการตามนโยบายบริษัทฯ ควบคู่ไปกับแนวทางการบริหารจัดการด้านภัยพิบัติ ของกลุ่ม ปตท.  ทั้งนี้ ทีม Corporate CSR มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้

– บริหารจัดการและให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติในพื้นที่ดำเนินโครงการ Corporate CSR

– ให้ความช่วยเหลือในพื้นที่อื่น ๆ ตามหลักมนุษยธรรมและจริยธรรม

– ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนและประสานงานกรณีเกิดภัยพิบัติร่วมกับคณะทำงานด้านภัยพิบัติกลุ่ม ปตท.

– ประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เช่น ลูกค้าเม็ดพลาสติก เป็นต้น เพื่อให้ความช่วยเหลือ/สนับสนุนผู้ประสบภัยพิบัติ

– ประสานข้อมูลให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ กับหน่วยงานและผู้ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ ดังนี้

เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี :

ผู้จัดการฝ่าย เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี กิจการเพื่อสังคมและชุมชนสัมพันธ์

คลังน้ำมันไออาร์พีซี พระประแดง แม่กลอง อยุธยา ชุมพรและสุราษฎร์ธานี : 

ผู้จัดการอาวุโส บริหารคลังน้ำมัน

โครงการความร่วมมือด้าน CSR และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามแนวทางการดำเนินโครงการลำไทรโยงโมเดล และ IRPC Smart Farming (Partnership & Knowledge Sharing)

ดำเนินการประสานหาความร่วมมือ/สร้างภาคีเครือข่าย ในการร่วมดำเนินโครงการ CSR และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตามแนวทางการดำเนินโครงการลำไทรโยงโมเดลและ IRPC Smart Farming ได้แก่ โครงการบริหารจัดการน้ำตามแนวทางการดำเนินโครงการลำไทรโยงโมเดล  และ IRPC Smart Farming  ร่วมกับฝ่ายกิจการเพื่อสังคม ปตท. โดยใช้องค์ความรู้ด้านระบบประปาของพนักงานจิตอาสาไออาร์พีซี ดำเนินการซ่อมแซมและฟื้นฟูระบบประปาหมู่บ้านคำแคนใต้ ต. คำแคน อ. มัญจาคีรี จ. ขอนแก่น ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้มาหลายปีแล้ว ให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติ เป็นต้น

นโยบาย

คณะกรรมการบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมรวมถึงวางกลยุทธ์การดำเนินงาน 5 ปี โดยให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติสำหรับผู้บริหาร พนักงาน และบริษัทในกลุ่มไออาร์พีซี ในการดำเนินโครงการทางสังคม ซึ่งสามารถสรุปแนวปฏิบัติได้ ดังนี้

  • เป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมุ่งเน้นความซื่อสัตย์ ยุติธรรม โปร่งใส และความรับผิดชอบ ด้วยการคำนึงถึงประโยชน์ที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสียและการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
  • ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งของผลประโยชน์ทางธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมการค้าเสรีที่ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือลิขสิทธิ์ สนับสนุนต่อต้านการทุจริตและการรับสินบน โดยกำหนดช่องทางและกระบวนการจัดการเรื่องร้องเรียน ร่วมกับประเมินความเสี่ยงด้านการต่อต้านทุจริตในการดำเนินโครงการทางสังคม
  • เคารพหลักการสิทธิมนุษยชนในระดับสากล ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนการปฏิบัติต่อลูกค้าและคู่ธุรกิจ
  • รับผิดชอบต่อลูกค้าด้วยการดูแลและพัฒนามาตรฐานของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอสำหรับลูกค้า รวมถึงการเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้เป็นความลับ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากลูกค้าก่อนจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
  • สร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและชุมชน เพื่อส่งเสริมการตรวจสอบ การแก้ไข และการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจและโครงการของบริษัทเชิงป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบทางลบต่อชุมชนและสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ สนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ทักษะองค์ความรู้และทรัพยากรภายในองค์กร
  • ดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม โดยติดตามและประเมินผลคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในภาวะฉุกเฉิน
  • ดำเนินนวัตกรรมทางธุรกิจเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับไออาร์พีซี รวมถึงสร้างคุณค่าผลประโยชน์แก่บริษัทและกลุ่มเป้าหมาย เช่น นวัตกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีสารป้องกันแบคทีเรีย ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค
  • จัดทำรายงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล รวมถึงเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้มีส่วนได้เสียรับทราบ โดยความร่วมมือจากผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจไออาร์พีซีในการให้สนับสนุนพนักงานขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้เกิดความสำเร็จ

กระบวนการและระบบบริหารจัดการ

ไออาร์พีซี ได้ดำเนินโครงการทางสังคมตามกลยุทธ์ด้านความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม  ซึ่งจำแนกออกเป็น 3  ด้าน ได้แก่ 1) โดยแนวทางการกำหนดโครงการทางสังคมแต่ละด้านจะพิจารณาจากความสำคัญและความต้องการที่เร่งด่วนของชุมชน อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการทางสังคมของไออาร์พีซี และบริษัทในกลุ่มต้องสอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมขององค์กร