ภูมิภาคอื่น ๆ 23% ภายในประเทศ 67% อาเซียน 10% ที่มา: ฝ่ายตลาดธุรกิจปิโตรเคมี บริษัท ไออาร์พีซี จำ �กัด (มหาชน) สั ส่ว การจำ �ห าย สัดส่่ว การจำ ำหน่่าย ผลิตภััณฑ์์ปิโตรเคมี ปี 2566 ความต้องการจากอุตสาหกรรมปลายทางต่างๆ ทยอยกลับมา ฟื้นตัว อาทิ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ที่ยังคงได้ อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง อุตสาหกรรมเครื่องใช้ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสัญญาณขาขึ้นของวัฏจักรสินค้า เริ่มปรากฏนับตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2566 เป็นต้น รวมถึงภาค การส่งออกของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่คาดว่าจะมีแนวโน้ม ขยายตัวดีขึ้นสอดคล้องกับแนวโน้มปริมาณการค้าโลกที่คาดว่าจะ ฟื้นตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเม็ดพลาสติก ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงและปัจจัยกดดันในด้านอุปทาน (Supply) ที่จะเพิ่มขึ้นจากกำ �ลังการผลิตใหม่จำ �นวนมากในจีน ซึ่งจะส่งผลให้กระแสการค้าในภูมิภาคเอเชียเปลี่ยนแปลงไป ผู้ผลิตในภูมิภาคอื่นๆ ที่ส่งสินค้าไปยังประเทศจีน จำ �ต้องแสวงหา ตลาดอื่นเพิ่มเติมอีกทั้งเศรษฐกิจจีนเองยังมีความไม่แน่นอน จากปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่เรื้อรัง และภาคการผลิตและ การส่งออกยังมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกัน ทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังคงมีเพิ่มเติม รวมถึงปัญหาความขัดแย้ง ทางภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย-ยูเครน หรืออิสราเอลกับ กลุ่มฮามาส ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำ �คัญที่จะต้องติดตาม อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากสถานการณ์เกิดความรุนแรงหรือลุกลามไปยัง ประเทศอื่นๆ อาจจะส่งผลต่อราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบให้มี ความผันผวนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยังต้องปรับตัวเพื่อเตรียมตัวกับข้อจำ �กัด ทางการค้าในประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ที่หลายประเทศต่างต้องตั้งเป้าหมายการลด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ จาก ภาคพลังงานและอุตสาหกรรม โดยประเทศสหรัฐอเมริกาและ สหภาพยุโรปจะเริ่มใช้ข้อกำ �หนดเกี่ยวกับการควบคุมการนำ �เข้า ผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยก๊าซดังกล่าวในปริมาณสูง ซึ่งครอบคลุมถึง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในห่วงโซ่การผลิต ส่งผลให้ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้องปรับ การดำ �เนินการต่างๆ ของตน การบริหารงา ธุุรกิจปิโตรเคมี ช่่ งทาง ารจำ �หน่่าย ในปี 2566 บริษัทฯ มีนโยบายเน้นการขายภายในประเทศเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการขายที่ร้อยละ 67 ของปริมาณการขายทั้งหมด และส่วนใหญ่เป็นการขายผ่านตัวแทนจำ �หน่ายที่มีสัญญาการ แต่งตั้งผู้แทนจำ �หน่ายอย่างเป็นทางการจำ �นวนทั้งสิ้น 16 บริษัท ซึ่งมีความชำ �นาญและความพร้อมในการให้การบริการ และ บางส่วนเป็นการขายตรงกับลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือ โดยพิจารณา ถึงศักยภาพ ปริมาณการซื้อ ความพร้อม และความสามารถในการ ชำ �ระเงิน เพื่อทำ �ให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อความต้องการ ของลูกค้าได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนที่เหลืออีก 1 ใน 3 ของปริมาณ การขายจะเป็นการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่ม ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนเป็นสำ �คัญ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการส่งออกผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกไปยังตลาด กลุ่มนี้ในสัดส่วนร้อยละ 10 ของปริมาณการขายทั้งหมด 82 โครงสร้างและการดํําเนิิ งา ของกล่� มบริษััท บริษััท ไออาร์พีีซีี จำำ �กั (มหาช )
RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=