(2) กรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ ที่มีความประสงค์จะซื้อ-ขาย หลักทรัพย์ของบริษัทฯ มีหน้าที่แจ้งต่อเลขานุการบริษัทล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วันก่อนทำ �การซื้อ-ขายหลักทรัพย์ ในกรณีที่ เลขานุการบริษัทประสงค์ที่จะซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จะต้องแจ้งต่อประธานกรรมการ หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (3) กรรมการ ผู้บริหาร (ตามนิยามสำ �นักงาน ก.ล.ต.) และผู้สอบบัญชี ของบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องจัดทำ �และเปิดเผยรายงานการเปลี่ยนแปลง การถือหลักทรัพย์ของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำ �นักงานคณะกรรมการกำ �กับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำ �หนด ภายใน 3 วันทำ �การ นับแต่วันที่มีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์ (4) กรรมการ และผู้บริหาร (ตามนิยามสำ �นักงาน ก.ล.ต.) ต้อง รายงานการเปลี่ยนแปลงส่วนได้เสียและข้อมูลประวัติของตน ตามหลักเกณฑ์การรายงานการมีส่วนได้เสียภายใน 7 วัน ทำ �การ นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยให้ส่งรายงานมายัง เลขานุการบริษัท เพื่อส่งให้กับประธานกรรมการและประธาน กรรมการตรวจสอบ 2) การป้องกัน วามขั แย้ง างผลประโยชน์์ (Conflict of Interest) บริษัทฯ กำ �หนดให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ รวมไปถึงบริษัทย่อย บริษัทร่วม และบริษัทที่บริษัทฯ มีอำ �นาจควบคุม ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ โดยจะต้องเปิดเผยรายการที่เป็นผลประโยชน์ ที่ขัดกันกับผลประโยชน์ของบริษัทฯ หรือกลุ่มบริษัทไออาร์พีซี ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้บริษัทฯ เป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพในการดำ �เนินธุรกิจ มีการกำ �กับกิจการและการบริหารงานที่เป็นเลิศ มีคุณธรรมใน การดำ �เนินธุรกิจ ปราศจากคอร์รัปชัน มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ การจั ำ �รายงานเปิ เผยรายการที่่� อาจมีีความขั แย้ง างผลประโยชน์์กับบริษัั ฯ บริษัทฯ กำ �หนดให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนของบริษัทฯ และบริษัท ในเครือ ต้องจัดทำ �รายงานเปิดเผยรายการที่อาจมีความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์หรือมีผลประโยชน์ที่ขัดกันกับผลประโยชน์ของ บริษัทฯ ผ่านระบบในรูปแบบออนไลน์ เป็นปีที่ 9 (นับตั้งแต่ปี 2558) นอกเหนือจากการรายงานของกรรมการและผู้บริหารตามเกณฑ์ ที่ ก.ล.ต. กำ �หนดเพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำ �นึกการปฏิบัติงาน ด้วยความโปร่งใสป้องกันการทุจริต และนำ �เสนอรายงานผลต่อ คณะกรรมการกำ �กับดูแลกิจการที่ดี ในปี 2566 ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับทั่วทั้งองค์กร ได้จัดทำ � รายงานความขัดแย้งทางผลประโยชน์ครบถ้วนร้อยละ 100 การจั ำ �รายงานการมีีส่วนได้้เสีียของกรรมการผู้บริหาร และบุ ลที่่� มีีความเก่� ยวข้อง คณะกรรมการบริษัทฯ ได้จัดทำ �รายงานการมีส่วนได้เสียของ กรรมการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการกำ �กับดูแลด้านการมีส่วน ได้เสียในระดับกรรมการ และผู้บริหารได้จัดทำ �รายงานดังกล่าว ครบถ้วนทุกราย และจัดส่งให้เลขานุการบริษัทจัดเก็บ รวบรวม พร้อมทั้งสำ �เนาส่งประธานกรรมการบริษัทฯ และประธานกรรมการ ตรวจสอบเพื่อใช้ในการตรวจสอบและกำ �กับดูแลด้านความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ 3) การจั ำ �รายงานการเปล่� ยนแปลง การถือ รองหลักั พย์์ บริษัทฯ ได้กำ �หนดให้คณะกรรมการและผู้บริหาร ซึ่งหมายรวมถึง คู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา และบุตรที่ยังไม่ บรรลุนิติภาวะ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของ บริษัทฯ จะต้องแจ้งให้บริษัทฯ ทราบและรายงานการเปลี่ยนแปลง การถือหลักทรัพย์ต่อสำ �นักงานคณะกรรมการกำ �กับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ภายใน 3 วันทำ �การนับจากวันที่ซื้อ ขาย โอนหรือรับโอน รวมทั้ง บริษัทฯ ได้กำ �หนดนโยบายในการเปิดเผย/รายงาน/ขาย/โอน เปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของกรรมการและผู้บริหาร ต่อคณะกรรมการบริษัทฯ เป็นประจำ �ทุกเดือน นอกจากนี้ บริษัทฯ จัดให้มีนโยบายแจ้งเวลางดซื้อขายหลักทรัพย์ (IRPC) ก่อนการ ประกาศแจ้งข่าวงบการเงิน 30 วัน และหลังประกาศข่าวฯ 2 วัน เพื่อให้กรรมการผู้บริหาร ผู้เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานที่ได้รับทราบ ข้อมูลภายใน (Insider) ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่าง ถูกต้องและประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด บริษัทฯ ขอความร่วมมือ กรรมการและผู้บริหารแจ้งต่อเลขานุการบริษัทเกี่ยวกับการซื้อขาย หลักทรัพย์ (IRPC) อย่างน้อย 1 วันทำ �การล่วงหน้าก่อนซื้อ-ขาย ดังกล่าว บริษัทฯ ไม่เคยได้รับการเตือนในเรื่องดังกล่าวจากหน่วยงานกำ �กับ ดูแล และในปี 2566 คณะกรรมการบริษัทฯ ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมกัน ไม่เกินร้อยละ 25 ของหุ้นที่ออกแล้วของบริษัทฯ ตามเกณฑ์ของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 263 รายงานผลการดำำ �เนินงานที่่� สำำ �คััญด้้านกำ �กับดููแลกิจการที่่� ดีี แบบแ งรายการข้้อมููลประจำ �ปี/ รายงานประจำ �ปี 2566 (แบบ 56-1 One Report)
RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=